วันอังคารที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2554

ประวัติดอกทิวลิป


ภาษาดอกไม้
โบราณกาลนั้นถือว่าดอกไม้คือสัญลักษณ์ ในบทประพันธ์คลาสสิคมักจะกล่าวถึงดอกไม้ในทางเปรียบเปรยความงามของหญิงสาว หรือสื่อสัญลักษณ์ของความรักผ่านถ้อยคำที่พรรณนาถึงดอกไม้ แม้แต่ William Shakespear การเขียนถึงดอกไม้ก็มักจะถูกเขียนสอดแทรกไว้ในบทประพันธ์ของเขาเสมอ
ดอกทิวลิป หมายถึงการฝากรักให้อีกฝายรับรู้ แต่สำหรับทิวลิปสีเหลืองจะมีความหมายที่ต่างไปคือรักที่สิ้นหวัง
ทิวลิปเป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว
รูปใบเล็กเรียวยาว ปลายใบแหลม เส้นแขนงใบจะเป็นแนวขนานไปตามความยาวของใบ และเรียวลู่ไปรวมกันที่บริเวณปลายใบ ใบแต่ละใบจะออกสลับทิศทางตรงข้ามกัน ต้นหนึ่งๆ จะออกใบประมาณ 3-4 ใบ
ทิวลิปจะมีขนาดสูงระหว่าง 12-18 นิ้ว ซึ่งก็ต้องแล้วแต่พันธุ์และชนิดของทิวลิปแต่ละอย่าง ดอกของทิวลิปก็เช่นเดียวกัน มีหลายแบบ หลายสี และหลายขนาด
ปรกติดอกทิวลิปจะเป็นดอกไม้รูปถ้วย ยามบานไม่บานแฉ่ง แต่จะบานเพียงแค่แย้มๆ กลีบออก ให้รู้ว่าเป็นดอกทิวลิปที่บานแล้ว แต่อย่างบายแฉ่งก็มีบ้าง เหมือนกัน เช่น พวกดอกทิวลิปซ้อนหลายๆ ชั้น
ดอกทิวลิปจะมีกลีบดอกซ้อนกันเพียง 2 ชั้นๆ ละ 3 กลีบ กลีบดอกของทิวลิปมีสีสันต่างๆ มากมายหลายเฉดสี นับตั้งแต่สีแสด แดง ส้ม เหลืองเข้ม เหลือง เหลืองอ่อน ชมพู ขาว และสีสลับลายหลายอย่าง มีทั้งสีเดียวล้วนๆ และสีผสมในดอกเดียว หรือที่เรียกว่า ”Broken Tulips” เกสรผู้เป็นสีเหลืองอ่อน หรือขาวเป็นแท่งรูปหัวศรมี 6 เส้น เกสรเมียมีขนาดโตกว่าเกสรผู้ อยู่กึ่งกลางเกสรผู้ เป็นลักษณะแท่งรูปสามเหลี่ยมยาว 2 - 2.5 เซนติเมตร ( ซึ่งมีขนาดยาวไล่เลี่ยกับเกสรผู้ ) ปลายเกสรเมียแต่ละเหลี่ยม งอลงเป็นสามแฉก ส่วนที่ปลายเกสรผู้บางพันธุ์อาจจะเป็นติ่งสีน้ำตาลเข้ม หรือสีดำก็มี
ทิวลิปเป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว รูปใบเล็กเรียวยาว ปลายใบแหลมเส้นแขนงใบจะเป็นแนวขนานไปตามความยาวของใบ และเรียวลู่ไปรวมกันที่บริเวณปลายใบใบแต่ละใบจะออกสลับทิศทางตรงข้ามกัน ต้นหนึ่งๆ จะออกใบประมาณ ใบโดยปรกติทิวลิปจะมีขนาดสูงระหว่าง นิ้วซึ่งก็ต้องแล้วแต่พันธุ์และชนิดของทิวลิปแต่ละอย่าง ดอกของทิวลิปก็เช่นเดียวกันมีหลายแบบ หลายสี และหลายขนาด แต่โดยปรกติดอกทิวลิปจะเป็นดอกไม้รูปถ้วยยามบานไม่บานแฉ่ง แต่จะบานเพียงแค่แย้มๆ กลีบออก ให้รู้ว่าเป็นดอกทิวลิปที่บานแล้วแต่อย่างบายแฉ่งก็มีบ้าง เหมือนกัน เช่น พวกดอกทิวลิปซ้อนหลายๆ ชั้นปรกติดอกทิวลิปจะมีกลีบดอกซ้อนกันเพียง ชั้นๆ ละ กลีบกลีบดอกของทิวลิปมีสีสันต่างๆ มากมายหลายเฉดสี นับตั้งแต่สีแสด แดง ส้ม เหลืองเข้มเหลือง เหลืองอ่อน ชมพู ขาว และสีสลับลายหลายอย่าง มีทั้งสีเดียวล้วนๆและสีผสมในดอกเดียว หรือที่เรียกว่า เกสรผู้เป็นสีเหลืองอ่อนหรือขาวเป็นแท่งรูปหัวศรมี เส้น เกสรเมียมีขนาดโตกว่าเกสรผู้ อยู่กึ่งกลางเกสรผู้เป็นลักษณะแท่งรูปสามเหลี่ยมยาว เซนติเมตร (ซึ่งมีขนาดยาวไล่เลี่ยกับเกสรผู้ ) ปลายเกสรเมียแต่ละเหลี่ยม งอลงเป็นสามแฉกส่วนที่ปลายเกสรผู้บางพันธุ์อาจจะเป็นติ่งสีน้ำตาลเข้ม หรือสีดำก็มี



ที่มา

http://www.phtnet.org/research/perishable-ornamental-plant.asp?id_name=g013

ชื่อสามัญ : ทิวลิป (tulip)ชื่อวิทยาศาสตร์ : Tulipa spp. L.ตระกูล : Liliaceae
ทิวลิป เป็นดอกไม้เมืองหนาวที่มีถิ่นกำเนิดในทวีปยุโรป เป็นดอกไม้สัญลักษณ์ของฮอลแลนด์ มีอยู่หลายสี ดอกทิวลิปจะปลูกได้ต้องใช้อุณหภูมิที่เหมาะสม คือไม่เกิน 25 องศาเซลเซียส ดอกทิวลิป สามารถปลูกได้เฉพาะพื้นที่ ที่มีสภาพอากาศหนาวเย็นเท่านั้น ... ตามปกติ ทิวลิปจะเจริญได้ดีในอุณหภูมิที่เหมาะสมเฉลี่ย 18-20 องศาเซลเซียส ใช้ระยะเวลาในการ ปลูก 39 วัน ดอกจึงจะบาน เมื่อดอกบานแล้วจะสามารถอยู่ได้นานเพียง 7 ถึง 15 วัน การปลูกในประเทศไทยดอกทิวลิป สามารถปลูกได้เฉพาะพื้นที่ ที่มีสภาพอากาศหนาวเย็นเท่านั้น แต่จากการทดลองปลูกทิวลิปที่ ศูนย์ส่งเสริมการเกษตรที่สูงดอยผาหม่น อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของ ศูนย์ส่งเสริมการเกษตรที่สูงจังหวัดเชียงราย สำนักส่งเสริมการเกษตรเขต 6 กรมส่งเสริมการเกษตร พบว่าทิวลิปที่สามารถนำมาปลูกในบ้านเรามี 20 สายพันธุ์ แต่ในครั้งนี้ปลูกเพียง 6 สายพันธุ์ คือ Christmas Sweet (สีขาว) LLe de Srance (สีแดง) Aaske (สีชมพู) Leen Vd Nark (สีแดงเข้ม) Negrita (สีม่วง) และ Strong gold (สีเหลืองทอง)ตามปกติทิวลิปจะ เจริญได้ดีในอุณหภูมิที่เหมาะสมเฉลี่ย 18-20 องศาเซลเซียส ใช้ระยะเวลาในการปลูก 39 วัน ดอกจึงจะบาน เมื่อดอกบานแล้วจะสามารถอยู่ได้นานเพียง 7 ถึง 15 วัน....หากนำลงไปจากดอยดอกก็จะอยู่ได้เพียง 1 สัปดาห์ เท่านั้น สำหรับดอกทิวลิปบานที่ลานผาหม่นเต็มที่ในช่วงวันที่ 16 ธันวาคม และหากมีการควบคุมแสงอุณหภูมิได้อย่างเหมาะสมก็จะทนอยู่ในแปลงได้ 10 วัน ถึง 2 สัปดาห์ สนใจข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ นายไชยณรงค์ สวยงาม นักวิชาการส่งเสริมการเกษตร 6 ว ศูนย์ส่งเสริมการเกษตรที่สูง ดอยผาหม่น ผู้เชี่ยวชาญการปลูกทิวลิปและลิลลี่ ซึ่งเคยผ่านการศึกษาจากประเทศฮอลแลนด์ โทร. 0-5367-8202การปลูกทิวลิปในเขตกรุงเทพเนื่อง จากกรุงเทพมีสภาพอากาศร้อน จึงต้องปลูกทิวลิปในโรงเรือนที่ใช้ตาข่ายพรางแสง 60 เปอร์เซ็นต์ มามุงหลังคาถึง 2 ชั้น ด้านข้างโรงเรือนก็ใช้ตาข่ายพรางแสง 2 ชั้นเช่นกัน แต่จะเปิดให้สามารถระบายอากาศได้ ส่วนด้านในโรงเรือนจะควบคุมอุณหภูมิไว้ที่ 25-26 องศาเซลเซียส โดยติดตั้งสเปรย์พ่นหมอกไว้ใต้หลังคา และติดตั้งพัดลมไว้ด้านข้าง เพื่อเปิดพ่นความเย็นในโรงเรือนต้องปลูกทิวลิปในตระกร้าพลาสติก ใช้ขุยมะพร้าวสับเป็นวัสดุปลูก วางหัวพันธุ์ลงบนขุยมะพร้าว แล้วโรยทับด้วยขุยมะพร้าวอีกชั้นหนึ่ง รดน้ำให้ชุ่ม นำไปวางเรียงกันเป็นแถวยาว ดูแลรดน้ำ 3 วันต่อครั้ง เพื่อให้ขุยมะพร้าวมีความชื้นที่เหมาะสม ประมาณ 8 เดือน ต้นทิวลิปก็จะทยอยออกดอก ภายในโรงเรือนซึ่งต้องพ่นสเปรย์หมอกอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้หัวพันธุ์มีโอกาสเน่าได้ง่าย เกษตรกรจึงทำหลังคาโค้งคลุมไว้อีกชั้นหนึ่งเพื่อป้องกันโรคหัวเน่า และไม่ใช้ปุ๋ยหรือสารเคมีบำรุงเพื่อเร่งการเจริญเติบโต ดอกทิวลิปที่ได้จึงปลอดสารพิษ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น